วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คนมีเสน่ห์

          บุคลิกภาพที่ดี คิดเป็น ทำเป็น มีจิตใจร่างกายที่เข้มแข็ง มีความเชื่อมั่น มีความน่าเชื่อถือ และมีเครือข่ายทางความคิด และ เครือข่ายในการทำงาน มีวิสัยทัศน์ มีการวางแผนเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ มีทักษะในการทำงาน และต้องมีความอดทน
         
          บุคลิกภาพ จะสะท้อนความเป็นตัวตนของบุคคลนั้น และเป็นสิ่งแรกที่ผู้อื่นประเมินความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้นเมื่อแรกเห็น หรือ เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดี จะวางตัวได้เหมาะสมในสังคม บุคคลใดได้อยู่ใกล้จะสบายใจมีความสุข เพราะเป็นผู้ที่น่าคบหาและให้เกียรติผู้อื่น ข้าพเจ้าจึงมองว่าการเป็นผู้มีบุคลิกดีเป็นคนที่มีเสน่ห์ ทำอย่างไรจึงจะเป็น คนมีเสน่ห์ การแต่งกายที่เหมาะสมกับช่วงเวลา และสถานที่ ที่เรียกว่ากาลเทศะ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนธรรมดา กลายเป็นคนมีเสน่ห์ กล่าวว่า

          คนมีเสน่ห์ ต้องเป็นผู้ที่ มีมาดต้องตา วาจาต้องใจ ภายในต้องเยี่ยม และเบ็ดเตล็ดอื่นๆ มาดต้องตานั้นมีส่วนทำให้เกิดเสน่ห์ทางตา ถึง 83% (ส่วนวาจาต้องใจ คือ ฟังด้วยหูแล้วเกิดเสน่ห์ เพียง 11% เท่านั้น)

     มาดต้องตา มีดังนี้
1.   ร่าเริงอยู่เสมอ การยิ้มแย้ม แจ่มใสกับผู้คนทำด้วยความจริงใจ ออกมาจากใจ
2.
  ยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ลักษณะที่งดงาม สบตาทุกครั้งที่ไหว้ ศีรษะค้อม
      มือชิดอก และใจเคารพ

3.
   อ่อนน้อมถ่อมตนกับทุกคน โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่แสดงอำนาจ วางท่าเย่อหยิ่ง   
      เหนือผู้อื่น

4.
 เมื่อพบหรือที่รู้จักกันแล้ว ในครั้งแรกก็ตาม ควรแสดงความกระตือรือร้น ยินดีที่
    ได้พบ ที่ได้รู้จักกัน

5.
 คนมีเสน่ห์ ไม่รู้สึกเสียเกียรติ ที่จะกล่าวคำขอโทษ หรือ ขอบคุณใครก็ตาม ตั้งแต่คนงาน
     คนรถ คนใช้ไปถึงระดับผู้ใหญ่ที่มีเกียรติ

6.
 คนมีเสน่ห์ จะมีความสง่างาม รู้จักวางตัวเหมาะสมไม่เคลื่อนไหวช้าเกินไป ไม่เร็วจน
     เกินไป เมื่อเล่นก็เล่น เมื่อทำงานก็ทำงาน

7. 
การแต่งกายให้ถูกกับกาลเทศะ ตามสภาพของงานที่จะไป และสังคมสิ่งแวดล้อมที่กำลังมี
    งานอยู่

8.
 ในงานพิธีต่างๆ เมื่อได้รับเชิญให้ลุกขึ้นยืนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าชุมชน ควรจะกลัดกระดุม
     ให้เรียบร้อยทุกๆ เม็ด รวมทั้งสูทด้วย

9.
  คนมีเสน่ห์ เมื่อไปงานพิธีใหญ่ ต้องแต่งกายรัดกุม ถูกกาลเทศะไม่นำสำภาระ ไปมาก
     จนเกินไป เช่น   โทรศัพท์มือถือ หรือ สะพายกล้องรุงรัง


วาจาต้องใจ มีดังนี้1.   คนมีเสน่ห์ เมื่อพูดกับใคร หรือมีใครพูดด้วยต้องให้ความสนใจผู้พูด และฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
      แม้เรื่องนั้นเราจะเคยฟังมาหลายครั้งแล้วก็ตาม

2.    
คนมีเสน่ห์จะพูดในสิ่งที่คนฟังอยากฟัง จะไม่พูดในสิ่งที่ตนเองอยากพูด โดยพยายามถาม  
       ตนเองทุกครั้ง ก่อนจะพูดว่าควรจะพูดออกไปไหม

3.
  พยายามพูดในภาษาของคนฟัง ไม่ใช่พยายามพูดในภาษาของคนพูด เพราะเมื่อพูดแล้วคนฟัง
      น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ

4.    คนมีเสน่ห์ จะไม่พูดโอ้อวดจนเกินงาม อย่าถือว่าตนเองเก่งคนเดียว เป็น
 5.  
หลีกเลี่ยงในการวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าไม่ดี หรือว่าตนเองดีอยู่คน เดียวจะเป็นการสร้าง
      ศัตรู

6.   
คนมีเสน่ห์จะไม่พูดถึงความลำบาก หรือ ความทุกข์ของตนเอง ให้คนอื่นฟัง
     โดยเฉพาะปัญหาหนักอกหนักใจ นอกจากคนอื่นจะช่วยไม่ได้แล้ว อาจจะนึกดูถูกด้วยซ้ำ
7.  คนมีเสน่ห์จะไม่พูดถึงความร่ำรวย ของตนเอง เพราะความร่ำรวยที่ผู้พูดพูดออกไปไม่ได้ก่อ
     ประโยชน์ให้กับผู้ฟัง
8.
   คนมีเสน่ห์ จะไม่พูดถึงความเลวร้าย ความไม่ดีของคนในครอบครัว ลูก และภรรยา ยกเว้น
      จะถูกคะยั้นคะยอเท่านั้น

9.
   คนมีเสน่ห์จะเป็นคนมีอารมณ์ขัน มีศิลปะในการเล่าเรื่องตลกบ้างเป็นครั้งคราว มีอารมณ์
      ขันสร้างบรรยากาศ ให้ครื้นเครงตามแต่กาลเทศะ แต่ไม่พร่ำเพรื่อจนกลายเป็นตัวตลกไป

10.   คนมีเสน่ห์จะ ไม่แสดงความรังเกียจ จนออกนอกหน้าเมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่ถูกต้อง


ภายในต้องเยี่ยม มีดังนี้
1.    คนมีเสน่ห์ต้องมีน้ำใจ เอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง "เงินยิ่งใช้ยิ่งหมด แต่น้ำใจยิ่งใช้ยิ่งเพิ่ม"
       ควรมีน้ำใจในเป็นทุกเรื่อง

2.    คนมีเสน่ห์ย่อมทำตัวเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ เพราะว่าผู้ให้ย่อมมีความสุขมากกว่า
3.
   เป็นคนมีความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี สังคมเคารพยกย่อง คนที่มีความ
      กตัญญูต่อพ่อแม่ และ ผู้มีพระคุณมาก ย่อมเป็นที่ยอมรับ

4.
   คนมีเสน่ห์ ย่อมมีความเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าตกทุกข์ได้ยาก ตกงาน ว่างงาน หรือ
       จะร่ำรวยมีฐานะดีก็ตาม

5.    
คนมีเสน่ห์จะเอาหลักศาสนาที่ตนนับถือ มาเป็นหลักปฏิบัติ ชาวพุทธจะปฏิบัติตนตาม
      ธรรมะ คือ ศีล
5 พรหมวิหาร 4 และเมตตาธรรม
6.
   การทำความดี ถือว่าเป็นความสุข การทำความดีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจะทำให้จิตใจ
       เบิกบาน

7.    เมื่อมีคนติติง ก็อย่าโกรธ เพราะว่าคำตินั้นมีประโยชน์มากกว่าคำชม
8.    คนมีเสน่ห์จะแสดงความเคารพนับถือ ครู อาจารย์ วิทยากร ถึงแม้จะมีอายุน้อยกว่าก็ตาม
9.
   ให้ความสนใจกับคำเชิญไปงานต่างๆ เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เคารพ หากไปไม่ได้
       จริงๆ ควรจะโทรศัพท์ไปขอโทษ และส่งของขวัญตามไปภายหลัง งานศพนั้นความไป
       เสมอ

10.    
คนมีเสน่ห์ ควรให้อภัย ไม่อาฆาตจองเวรคนที่ให้อภัยเป็นทานจะมีใบหน้ารอยยิ้ม อิ่มเอิบ
         ผุดผ่องเสมอ คนโกรธจะมีใบหน้าบึ้งตึงไร้เสน่ห์
           
        บุคลิกภาพของคนที่มีเสน่ห์นั้น มีมากมายหากแสดงออกได้อย่างเหมาะสมแล้วย่อมเป็นผู้ที่น่าคบหา เข้าใกล้ใครใครก็รัก ใคร่เอ็นดู เพราะประพฤติตนอยู่บนพื้นฐานของความพอดี เหมาะสมตามเหตุและปัจจัยอันควร ซึ่งเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกสาขาวิชาชีพ  ประการสำคัญการที่จะกลายเป็นคนมีเสน่ห์ได้นั้น การประพฤติ  อย่างที่กล่าวมาผู้ฝึกฝนต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และ เท่าเทียม เพื่อเพิ่มพูนเสน่ห์ให้กับตนเอง

         



1 ความคิดเห็น: